Google Drive
เป็น Online Service ประเภท Cloud Technology ที่มีไว้สำหรับให้ผู้ใช้จัดเก็บข้อมูลลงไปในนั้นสามารถใช้ได้ฟรีโดยการใช้ฟรีนั้น จะมีเนื้อที่ให้ใช้ 5GB ก็สามารถทำได้ครับโดยการเสียค่าบริการ เป็นรายเดือน หรือ รายปีไป สนนราคาตอนนี้อยู่ที่ถ้าหากลองดูวิธีการเอาข้อมูลเข้าไปจัดเก็บแล้ว เราจะพบว่า มันทำงานได้ทั้งบน Computer ทั่วไป และ บนมือถือ นั่นหมายความว่า ถ้าเราทำงานบน Computer แล้วเก็บข้อมูลไว้ใน Folder ของ Google Drive แล้วปิดเครื่องไป ออกนอกสถานที่ แล้วเปิดด้วย iPhone ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เราเพิ่งทำไว้บน Computer ได้ หรือในทางกลับกัน โดยที่ Google Drive จะทำหน้าที่ copy files, upload files หรือ sync files ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ให้โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ ไม่ต้องทำอะไรเองเลย แค่เรียกไฟล์ใน Folder นั้นๆ ออกมา เท่านั้น
รูปตัวอย่างหน้าจอ หลังจากที่ติดตั้งโปรแกรม Google Drive เข้าไปใน Windows 7 แล้ว การใช้งานนั้นง่ายมาก แค่เอาไฟล์ข้อมูลไปวางไว้ใน Folder Google Drive ที่ตอนลงโปรแกรมมันจะถาม นั่นเอง
อ่านถึงจุดนี้ จะพบว่า มันทำให้ผู้ใช้ทำงานง่ายขึ้นเยอะ ให้ลืมเรื่องการ Upload files หรือ Copy Files เข้า USB Thumb Drive ได้เลย โปรแกรมของ Google Drive จะจัดการเรื่องนี้ให้อัตโนมัติ เพราะมันจัดเป็น File Synchronization Tool ประเภทหนึ่งนั่นเอง เหมือนกับ DropBox , SkyDrive, และ ผู้ให้บริการรายอื่นๆ
การนำข้อมูลลงไปจัดเก็บใน Google Drive นั้นทำได้หลายวิธีมาก
1.เข้าผ่าน Web Browser แล้วเข้าไปที่ Gmail.com แล้วกดไปที่ Documents หรือว่า Drive Menu
2.เข้าผ่าน Windows Explorer โดยไปที่ Folder ของ Google Drive ซึ่งก่อนจะเข้าด้วยวิธีนี้ได้จำเป็นที่จะต้อง Download โปรแกรม Google Drive ที่ติดตั้งไว้บนเครื่องก่อนครับ รองรับได้ทั้ง Windows และ Mac OSXเข้าผ่าน Windows Explorer โดยไปที่ Folder ของ Google Drive ซึ่งก่อนจะเข้าด้วยวิธีนี้ได้จำเป็นที่จะต้อง Download โปรแกรม Google Drive ที่ติดตั้งไว้บนเครื่องก่อนครับ รองรับได้ทั้ง Windows และ Mac OSX
3.เข้าผ่าน Mobile Device ประเภท iPhone, iPad หรือ Android
Cloud Computing
Cloud Technologyเป็นรูปแบบที่กำลังจะมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ของเพื่อให้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่อาศัยคุณสมบัติข้อดีของCloud ได้อย่างดีเยี่ยม รูปแบบนี้ อาจจะอธิบายได้ยากและซับซ้อนมากขึ้นกว่า 2 รูปแบบแรก ซึ่งผู้ใช้ Cloud ในรูปแบบนี้จะเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) ที่ต้องการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานบน Cloud และให้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นนั้นใช้คุณสมบัติต่างๆของ Cloud ที่จะไม่สามารถหาได้จากสภาวะปกติ (Non-cloud computing) เช่น ความสามารถในการขยาย Computing Resource นอกจากนี้ยังมี Cloud Technology อื่นๆ อีกมากมาย ที่ให้บริการ Business Application ทำนองนี้ เช่น Salesforce.com หรือ Amazon Web Services หรือ ที่อื่นๆ ซึ่งจุดประสงค์ของ Cloud Technology ถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจ ลดการเสียเวลาหรือเสียค่าใช้จ่ายที่จะต้องบริหารจัดการ IT Infrastructure ด้วยตนเอง ให้ไปเน้นการทำธุรกิจขององค์กรแทนที่จะเน้นการบริหารจัดการ IT Infrastructure ในองค์กร ซึ่งมีต้นทุนในการบริหารจัดการสูงกว่าการ Outsourcing ไปใช้บริการ Public Cloud Service อย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น